วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเข้าเรียนในระดับมัธยมต้น
เนื่องจากลูกสาวจะเรียนจบใน Grade 6 ต้องมีการย้ายโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนเก่ามีถึงชั้น Grade 6 เท่านั้น ขั้นตอนของที่นี่คือทางหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการศึกษาของเมืองจะมีใบมาให้นักเรียนกรอกว่าเราต้องการไปเรียนต่อที่โรงเรียนใดให้ระบุไปแล้วทางหน่วยงานจะจัดการให้
แต่สำหรับนักเรียนที่จะเข้าในโปรแกรมพิเศษ ซึ่งไม่ได้มีทุกโรงเรียน เขาเรียกว่า Pre-advance placement program บางทีอาจเรียกเป็นอย่างอื่น แต่ในความหมายคือ เป็นโปรแกรมที่จะเน้นวิชาการมากกว่าโปรแกรมปกติ (Regular program) มีสอนวิชาการมากขึ้น เหมาะสำหรับนักเรียนที่วางแผนจะต่อในมหาวิทยาลัย หากเราจบในโปรแกรมดังกล่าวก็มีสิทธิที่จะสมัครเรียนโปรแกรม Advance placement program ในระดับมัธยมปลายต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะมีการประเมินทุกปีหากว่าคะแนนไม่ดีก็ต้องออกจากโปรแกรมไป
วิธีการสมัครและการคัดเลือก
1. นักเรียนต้องมีผลการเรียนในวิชาหลักสี่วิชา คือ Math, Science, Language art, และ Social study ในระดับ 80% ขึ้นไป
2. ครูประจำชั้นให้ความเห็นหรือแนะนำว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
3. หนังสือความเห็นของผู้ปกครองว่านักเรียนมีความสามารถหรือมีลักษณะอย่างไร ถึงเห็นว่านักเรียนเหมาะในการเรียนโปรแกรมดังกล่าว
4. บทความหรือความเห็นของตัวนักเรียนว่าทำไมถึงอยากเข้าโปรแกรมดังกล่าว
หลังจากนั้นทางโรงเรียนจะดำเนินการคัดเลือก โดยปกติจะรับนักเรียน ไม่เกิน 32 คน เพราะคงกำหนดให้ได้เพียงหนึ่งห้องเท่านั้น
การเข้าโปรแกรมนี้เรียนมากกว่าเด็กโปรแกรมปกติแต่เวลาสอบจะใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน ก็คงไม่ได้เสียเปรียบในการเก็บคะแนนที่จะเรียนต่อในระดับต่อไป
ไว้ลูกสาวเข้าเรียนแล้ว บรรยากาศเป็นอย่างไรจะมาเล่าต่อค่ะ
ย้ายครอบครัวมาอยู่ประเทศแคนาดา
วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
Silver Skates Festival 2013
วันนี้ครอบครัวเราพากันเที่ยวสวนสาธารณะที่เขาจัดให้เป็นงานเล่น Skates และ Ski ของคนในเมือง Edmonton เรียกว่า Silver Skates Festival โดยในช่วงเช้าจะมีการแข่งขันบ้าง พอสัก 10 โมงเช้าจะมีลานให้หัดเล่นกันบ้าง สวนสาธารณะนี้ห่างจากบ้านเราประมาณ 10กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ช่วงเช้าอากาศเย็น เพราะมีลม แต่เด็กก็สนุกมาก แม่รีลืมเอากางเกงกันหิมะไปให้ เด็ก ๆ ก็เล่นกันกางเกงเปียกเลย ก้นเปียกเลย
พ่อโตจัดการเอารองเท้า ICE SKATES ไปให้ด้วย ก็ไปจัดการเล่นกันสนุกสนาน หากใครไม่มีรองเท้าก็ไปเช่าได้ราคาประมาณ 7 เหรียญต่อชั่วโมง พี่เอิร์นเล่นพอได้แล้ว ส่วนอินดี้ก็เดินได้บ้าง บอกว่าลื่นครับไม่ค่อยกล้า
งานนี้ฟรีตลอด เล่นฟรี บ่าย ๆ น่าจะมี Hot Chocolate แล้วก็รถม้าให้นั่งได้ฟรี แต่เราอยู่ไม่ถึง เนื่องจากอากาศเย็นแล้ว เล่นกันพอสมควรแล้วจ๊ะ
ป้ายทางเข้าสวนสาธารณะ
พี่เอิร์นบอกว่าขอพักเหนื่อยหน่อย เล่นแล้วขามันเกร็ง บอกว่ารองเท้า Skates แข็งไปหน่อยค่ะ
ข้างหลังเป็นการแกะสลักน้ำแข็ง แต่ฝีมือน่าจะสู้เมืองไทยไม่ได้ เพราะเราดูไม่ออกว่าคือรูปอะไร
พ่อโตพาอินดี้ไปหัดเดิน เห็นว่าเดินได้คล่องขึ้น แต่ไม่กล้าปล่อยมือพ่ออ่ะ
ท่าทางพี่เอิร์น ไปได้เรื่อย ๆ แล้ว
ผมหนาวแล้วครับ
วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
อาหารจีนในแคนาดา ณ เมือง edmonton
ในช่วงวันเกิดของแม่รี (เดือนธันวาคม) ปกติอยู่เมืองไทย พ่อโตจะพาไปทานอาหารนอกบ้านเป็นการฉลองความแก่ให้ภรรยา โดยปกติก็จะมีคุณปู่คุณย่าไปร่วมทานเป็นประจำ ส่วนญาติแม่รี ทางคุณยายและคุณก๋ง อยู่ต่างจังหวัด ก็ทานกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะให้เงิน หรือของที่แม่รีอยากได้เป็นของขวัญให้กับลูกสาวคนนี้ตลอด
ในปีนี้ที่แคนาดาเรามีกัน สี่ชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดความเหงา เนื่องจากแม่รีเป็นคน Sensitive สามีรู้ดี เลยพาไปฉลองร้านอาหารจีน ที่เพื่อนที่ทำงานพ่อโตแนะนำมา ตอนแรกแม่รีก็คิดว่าคงธรรมดาแต่ร้านนี้แจ่มมาก รสชาติถูกปากมาก ที่สำคัญมียำแมงกะพรุนของโปรดเราอ่ะซิ พ่อโตจัดหนักสั่งมาเยอะแยะ
ที่ร้านอาหารจีนนี้ เข้าใจว่าเขาคงทำกันในครอบครัวนะ แต่บริการดี คนที่มาทานก็เป็นคนจีน หรือคนจากเอเชีย ช่วงเช้าเขาจะขายพวก Dim Sum บ่ายเย็น เป็นอาหารชุด แบบว่าสั่ง 4 อย่างราคาเท่าไร แถมข้าวกับซุบจ๊ะ อะไรแบบนี้ ครอบครัวเราก็สั่งทั้ง Dim Sum ทั้งอาหารชุด จัดมันหนักเลย พ่อโตบอกว่ากินเลย พ่อเลี้ยง มาดูหน้าตาอาหารกันนะ
ของโปรดอินดี้ ข้างในมีใส่หมูแดง
แม่รี พี่เอิร์น จัดหนัก เพิ่งไปว่ายน้ำมากันด้วย
ซุปกระดูกหมูเขาแถมมาเป็นหม้อเลย อินดี้ชอบ
คนนี้ค่อย ๆ ทาน แอบดูโต๊ะโน่นว่าทานอะไรกัน จะได้สั่งตาม
หน้าร้านอาหารจีน หิมะตกหนักด้วยอ่ะ
อันนี้พี่เอิร์นสั่ง ลักษณะเหมือนหมูแล้วผัดซอส อร่อยดี นิ่มดี
จานนี้พ่อโตสั่งค่ะ ไก่ผัดซอสส้ม
คนนี้เจ้าภาพของครอบครัว
จานนี้ของโปรดแม่รีอ่ะ อร่อยสุดยอด ทานแล้วนึกถึงคุณยายเลย ชอบเหมือนกัน
เรื่องเล่าจากเพื่อนต่างชาติที่อพยพมาอยู่แคนาดา
วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนต่างชาติที่มารู้จักกัน รวม 3 ราย ซึ่งเขามาอยู่แคนาดานานกว่าเรามาก ในขณะนี้เราอยู่มาเกือบ 6 เดือนแล้ว เพื่อนเล่าให้ฟังประสบการณ์ที่เขาอยู่ในแคนาดา โดยขอแยกเป็น 3 กรณีดังนี้
รายที่ 1 เป็นผู้หญิงชาวเวียดนาม พูดฟังภาษาอังกฤษคล่องแคล้วมาก เธอเราว่าเธอสามารถพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ดี (เธออยู่แคนาดามามากกว่า 25 ปี) แต่ไม่สามารถเขียนได้เนื่องจากหลังจากมาจากเวียดนาม เธอเรียนภาษาอังกฤษเพียงสองเดือน และต้องเริ่มทำงานเลย เนื่องจากเธอมีลูกมาด้วย 5 คน เธอต้องทำงานหาเงิน การทำงานโดยเฉลี่ยทำวันละ 16 ชั่วโมง ทำ 6 วันต่อสัปดาห์ (รายได้เธอมากพอที่จะไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลแคนาดาเลย) แต่เธอไม่เคยเลี้ยงลูกเอง ให้ลูกเลี้ยงตัวเอง เนื่องจากลูกเธอคนแรก มีอายุ 15 ปี ก็ดูแลกันเอง แต่เธอจะผลักดันให้ลูกไปเรียนหนังสือทุกวัน จนถึงวันนี้เธอเกษียณตัวเอง ลูกทั้ง 5 คน จบในระดับมหาวิทยาลัย เป็นวิศวกร มีบ้านเป็นของตนเอง แต่แยกบ้านกันหมด เธออยู่เพียงคนเดียว ดังนั้น เธอใช้ชีวิตคือ ท่องเที่ยว ช่วยเหลือคนอื่น พูดคุยกับคนต่างๆ เพื่อจะได้ไม่เหงา เธอบอกเธอมีความสุขดี เนื่องจากลูกเธอประสบความสำเร็จแล้ว
รายที่ 2 เป็นผู้ชายชาวบราซิล มาอยู่แคนาดา 4 ปี มากันทั้งครอบครัว มีลูก เมีย ขณะนี้มีหลานแล้วด้วย ในช่วงสองปีแรก ชายท่านนี้ ก็ทำงานเป็นช่างทำตู้ติดผนัง โต๊ะ ตู้ ในครัวอ่ะนะ ปรากฎว่าเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ เขาประสบอุบัติเหตุผ่าตัดข้อต่อบริเวณสะโพกด้านซ้าย หมอที่แคนาดาก็ผ่าตัดให้ ปรากฎว่าเกิดความผิดพลาดการวัดข้อต่อหรือความยาวของเหล็กไม่ได้ระดับกับข้อต่อและความยาวของขาอีกข้าง ทำให้ชายท่านนี้ขาไม่เท่ากัน ทำให้ปวดหลัง เดินไม่สะดวก ต้องเลิกทำงานไป และพยายามไปพบแพทย์หลายครั้ง ก็ยังไม่ได้รับการผ่าตัดใหม่ เพราะหมอก็พูดเหมือนกันว่ามันผ่ายาก แต่ชายท่านนี้บอกว่าครอบครัวเขาดีมากให้กำลังใจและสนับสนุนทุกอย่าง ดังนั้น ในช่วงนี้ก็เลี้ยงหลานไปก่อน ค่อยแก้ไขกันไป เมื่อเจอกับหมอที่ดี
รายที่ 3 เป็นผู้ชายมาจากประเทศเอลซัลวาดอร์ มาอยู่แคนาดาเกือบ 5 ปี เดิมเป็นวิศวกรที่ประเทศเดิม มาอยู่แคนาดาก็ทำงานบ้าง แต่ส่วนใหญจะเรียนเป็นหลัก ทั้งภาษาอังกฤษและ Certificate เพื่อให้ได้งานที่ใกล้เคียงกับที่เคยทำ แต่ในขณะนี้ยังหางานทำอยู่นะ ประสบการณ์ที่เขาได้รับคือ ช่วงที่มาอยู่แคนาดาพ่อที่อยู่ต่างประเทศเสีย เขาก็ไม่ได้ดูแล แล้วต่อมาห่างกัน 6 เดือน ลูกสาวที่มาอยู่ด้วยก็เสีย เขาบอกว่าเขาอยู่แทบไม่ได้เลย แต่ภรรยาและลูกอีกคนดีมาก เป็นกำลังใจให้ก็ผ่านกันมา
ฟังดูแล้วชีวิตคนเรามีอะไรมากมาย แต่ทั้ง 3 กรณีในขณะนี้มีความสุขดี ทุกคนพูดว่า ต้องอยู่ให้ได้ และอยู่อย่างมีความสุข ฟังแล้วเป็นข้อคิดเนอะว่าคนเราต้องเข้มแข็ง อดทน และคิดบวก
วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
เมื่อลูกหัดเล่นกีฬาฤดูหนาว
การมาอยู่แคนาดาถือว่าเป็นประเทศที่ีมีหิมะมากๆๆ ดังนั้น ลูกทั้งสองควรจะเล่นกีฬาฤดูหนาวบ้าง ว่าแล้วแม่รีก็จัดการหาอุปกรณ์กีฬาให้ลูกสุดที่รัก โดยอย่างแรก เราคงเอาแค่ ICE SKATES ก่อน เพราะ Hockey คงไม่อยากให้อินดี้เล่น เพราะนักกีฬาที่เล่น Hockey ฟันหน้าหลออ่ะ หรือไม่ก็คางแตก คงไม่เหมาะกับอินดี้ เพราะเรายังอยากให้อินดี้หน้าเรียบเนียน หล่อเหลาอยู่
เด็กๆ สนุกกันมาก แต่แม่รีไม่กล้าเล่นอ่ะ กลัวจะกระดูกหักอ่ะจ๊ะ ทาง City ของเมืองนี้เขาจะจัดลานไว้ให้เล่นเลย โชคดีมีลานใกล้บ้านเรา แต่เล่นได้สักชั่วโมงแม่รีต้องบอกว่าพอแล้ว
มันหนาวอ่ะลูก แต่อินดี้เหงื่อแตกอ่ะ ไม่หนาวเลยครับแม่
พี่เอิร์นเล่นเกือบได้แล้ว คงอีกสักสองครั้งน่าจะพอโอเค เด็กเล็กกว่าอินดี้เล่นสนุกเลย เล่นเก่งอ่ะ
Christmas ครั้งแรก ณ ประเทศแคนาดา
เมื่อใกล้ถึงเทศกาลวัน Christmas พวกเราก็ไม่มีญาติพี่น้องที่แคนาดา พ่อโตกับแม่รีก็คิดกันว่าจะพาลูกทำกิจกรรมอะไรดีนะ เนื่องจากพ่อโตเขาอ่านในหนังสือพิมพ์ว่า เด็ก ๆ จะรอวัน Christmas มากเพราะต้องได้รับของขวัญจากพ่อแม่ หรือญาติ ดังนั้น เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราสองคนพ่อแม่ ก็วางแผนว่าจะต้องหาของขวัญให้ลูก และกิจกรรมให้ลูก โดยสอบถามเด็ก ๆ ว่าอยากได้อะไร สองคนนี้บอกว่าอยากได้เครื่องเล่น Xbox Game เราก็ไม่ค่อยรู้จัก ก็ยัง งง ทำไมลูกเรารู้ดีกันจัง สุดท้าย พ่อโตก็ซื้อให้ แล้วก็ซื้อเปียโนให้เอิร์นด้วย (อย่างหลังเอิร์นบอกว่า จริงๆ ไม่ต้องซื้อก็ได้ แต่แม่กับพ่อบอกว่าไม่ได้ ให้เรียนและเล่นต่อนะ) ส่วนน้องอินดี้ เขาอยากได้ตัวต่อ LEGO (แต่พอได้จริงๆ กลายเป็นพี่เอิร์นต่ออ่ะ)
ครอบครัวเราโชคดีมีเพื่อนคนไทยในต่างแดนที่น่ารัก ชวนไปงานวัน Christmasที่่บ้าน แต่กลับกลายเป็น Party อาหารไทย ไก่งวงของแท้ชิดซ้ายเลย เจอส้มตำปูปลาร้า ขนมจีนน้ำยาป่า รสแซบ อร่อยสุด ๆ เข้าไป
สรุปวัน Christmas ปีนี้ไม่เหงาจ๊ะ เพื่อนพี่เอิร์นมีถามด้วยนะว่า YOU ได้ของขวัญอะไรอ่ะ
แม่รีไปค้นหาข้อมูลเจอโบสถ์ที่เขาจัดงานในวัน Christmas เด็ก ๆ สนุกกันใหญ่
พาเด็ก ๆ ไปดูไฟในช่วงวัน Christmas พี่เอิร์นชอบมาก
เราก็มีต้น Christmas เหมือนกันนะ
วันประชุมผู้ปกครองครั้งแรกที่ประเทศแคนาดา
การเรียนที่แคนาดาระดับประถมจะมีระยะเวลาการเรียน คือ เปิดตั้งแต่เดือนกันยายน แล้วจะมีหยุดยาวช่วง Christmas ไปถึง New Year (Winter Break) แล้วก็เริ่มเรียนต่อแล้วก็ไปหยุดอีกทีช่วงเดือนมีนาคม (Spring Break) แล้วปิดเทอมยาวเพื่อเลื่อนชั้นช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ทางโรงเรียนจะมีการประชุมผู้ปกครองจำนวน 2 ครั้ง และแล้วการประชุมผู้ปกครองครั้งแรกที่แคนาดาก็ได้มีจดหมายเพื่อมานัดหมายเวลาของผู้ปกครองของเด็กแต่ละคน ให้เรากำหนดเวลาว่าสะดวกที่จะมาช่วงไหน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวกึ่งๆ โชว์ผลงานเด็ก และการเรียนการสอนเป็นอย่างไร เรียนอะไรบ้าง หรือทางผู็ปกครองเห็นว่าลูกเป็นอย่างไรก็แลกเปลี่ยนความเห็นกัน วิธีการแบบเป็นกันเอง แต่สำหรับห้องพี่เอิร์นคุณครูจะให้เด็กโชว์ว่าเรียนอะไร โดยแสดงให้พ่อแม่ดู เช่น วิชาคณิตศาสตร์ เรียนอะไร มีโจทย์ให้เด็กทำ จะเป็นลักษณะแบบนี้
ผลงานบางส่วนของอินดี้ การเรียนสำหรับนักเรียน Grade 1 ที่นี่ไม่ยากมากเน้นการออกเสียง การรู้จักตัวเลข ก็ดีสำหรับอินดี้เพราะต้องมาเริ่มเรียนรู้ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษที่นี่ บางคนแนะนำให้เราพูดกันเป็นภาษาอังกฤษที่บ้าน เด็กๆ จะได้เข้าภาษาอังกฤษได้เร็ว แต่พ่อกับแม่อยากให้ค่อยเป็นค่อยไป และที่สำคัญอยากให้เขายังชอบที่จะพูดไทยอยู่ เพราะอนาคตไม่มีใครรู้ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ที่สำคัญเรามีญาติพี่น้องเป็นคนไทย ยังอยากให้เขาพูดกับคุณตาคุณยาย คุณปู่คุณย่า เป็นภาษาไทย
Teacher คนนี้ใจดีมาก แต่เสียดายที่มาสอนชั่วคราวเพราะ Teacher ตัวจริงลาไปคลอดลูก พอถึงกำหนดก็กลับมาสอนตามปกติ คุณครูท่านนี้บอกว่าอินดี้อย่าลืมครูนะ ครูคือ ครูที่สอนภาษาอังกฤษที่แคนาดาคนแรกของอินดี้ ฟังแล้วซึ้งเลย
สำหรับ Teacher คนนี้สอนอินดี้สำหรับช่วงวิชาการในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายเรียนกับ Teacher อีกท่านเนื่องจากห้องอินดี้มีนักเรียน 26 คน การมีครูเพิ่งคนเดียวไม่เพียงพอ อินดี้เลยได้เรียนกับครูสองท่าน
คนนี้คือ Teacher ของพี่เอิร์น ใจดี เข้าใจเด็กมาก เป็นครูที่มาจากประเทศยูเครนแต่มีประวัติการสอนที่แคนาดามายาวนาน (ตามที่ครูเล่าให้ฟัง) เขาบอกว่าไม่ต้องกังวลเขาจัดการได้ สำหรับเอิร์นครูบอกว่าเป็นเด็กฉลาดมาก เรียนรู้ได้เร็ว ให้เวลาปรับตัวเพื่อให้เข้าใจภาษาอังกฤษ และวัฒนธรรมที่นี่ ภายใน 1 ปี จะเข้าใจทุกอย่าง ครูบอกว่าไม่มีปัญหาการเรียนสำหรับเอิร์น She is very smart. ว่าแล้วครูเขาเลยแนะนำเพื่อนชาวแคนาเดี้ยนให้เป็นเพื่อนสนิทพี่เอิร์นเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความเห็น และได้พูดคุยกันบ้าง
คนนี้คือเพื่อนสนิทพี่เอิร์น น่ารัก ก็ได้ฝึกภาษากับคนนี้แหล่ะในช่วงแรก แต่พอช่วงหลังพี่เอิร์นไปสนิทกับเพื่อนอีกคนที่เป็นแขกขาว บอกว่าเพื่อนอีกคนตั้งใจเรียนจะได้ไว้ถามการบ้าน หรืองานที่ครูสั่งในห้องบ้าง แต่กับคนนี้เล่นตอนกลางวัน พวกเตะบอล กับวิ่งไล่จับกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)